คำถามเกี่ยวกับการเทรดฟอเร็กซ์ Forex 2017
1.ฉันสามารถเปิดได้กี่ออร์เดอร์ต่อเดือน ?
เราไม่ได้จำกัดการเปิดออเดอร์สูงสุด ท่านสามารถเปิดออเดอร์มากเท่าที่ท่านต้องการ ทั้งนี้ท่านควรคำนึงถึงความเสี่ยงด้วยเช่นกัน
2.ฉันควรใช้เลเวอร์เรจเท่าไหร่กับบัญชีเทรดของฉัน ?
เลเวอร์เรจขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีที่ท่านเลือก ทาง Forex มีเลเวอร์เรจเริ่มต้นตั่งแต่ 1:1 จนถึง 1:3000 ทั้งนี้การเลือกใช้เลเวอร์เรจก็ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่เทรดเดอร์แต่ละคนสามารถยอมรับได้เช่นกัน
3.ปริมาณการซื้อขายขั้นต่ำในการเทรดอยู่ที่เท่าไหร่ ?
ปริมาณการซื้อขายในตลาดฟอเร็กซ์ต่ำสุดอยู่ที่ 0.01 lot หรือ 1,000 หน่วยของสกุลเงินนั้นๆ
4.สเปรด คืออะไร ?
สเปรด คือ ส่วนต่างระหว่าง ราคา Bid และราคา Offer ซึ่งแต่ละบัญชีและคู่เงินซื้อขายจะมีการคิดสเปรดที่ต่างกัน
5.ตลาดฟอเร็กซ์จะเปิดให้ลงทุนเวลาใดบ้าง ?
ตลาดฟอเร็กซ์ เป็นตลาดสากลที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง จันทร์-ศุกร์ และหยุดเสาร์ อาทิตย์ เนื่องจากธนาคารส่วนใหญ่ปิดทำการ ตลาดแรกที่เริ่มเปิดเทรดจะเกิดขึ้นที่กรุงซิดนีย์และไล่ไปเรื่อยๆตามส่วนต่างๆตามเวลาทำการของแต่ละประเทศ ได้แก่ โตเกียว ลอนดอน นิวยอร์ค ด้วยเหตุนี้ทำให้นักลงทุนตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมือง ณ ขณะนั้นๆ
6.เวลาในการซื้อขายของคุณคือ ?
เวลาเริ่มซื้อขายจาก ตั้งแต่วันอาทิตย์เวลา 22:05 GMT ถึง วันศุกร์เวลา 21:50 GMT
*ตลาดจะปิดสำหรับการเทรด ตั้งแต่เวลา 0:00-0:05 ของทุกวัน อย่างไรก็ตามแพลตฟอร์มยังแสดงราคาที่สามารถใช้ในการซื้อขายอยู่ในช่วงนี้
*ตลาดจะปิดสำหรับการเทรด ตั้งแต่เวลา 0:00-0:05 ของทุกวัน อย่างไรก็ตามแพลตฟอร์มยังแสดงราคาที่สามารถใช้ในการซื้อขายอยู่ในช่วงนี้
7.สกุลเงินที่นิยมในตลาดฟอเร็กซ์มีอะไรบ้าง ?
สกุลเงินที่นิยมซื้อขายมากที่สุด ได้แก่ US Dollar, Canadian Dollar, Australian Dollar, Japanese Yen, British Pound, Euro, และ Swiss Franc เนื่องจากสกุลเงินเหล่านี้ มีสภาพคล่องสูง และเป็นสกุลเงินของประเทศที่มีเสถียรภาพทางการเมือง หากท่านต้องการทราบเพิ่มเติ่มเกี่ยวกับ สถานะ ราคา และสกุลเงินอื่นๆที่ลงทุนได้ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี๋่
8.ฉันจะทำกำไรจากตลาดฟอเร็กซ์ได้อย่างไร ?
การทำกำไรในฟอเร็กซ์ก็เหมือนกับการลงทุนในตลาดหุ้นนั่นคือการเก็งกำไรมูลค่าในอนาคตของสินทรัพย์นั้นว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เพียงแต่ฟอเร็กซ์จะเป็นการซื้อขายกันด้วยค่าเงินต่างสกุลกันเป็นคู่ๆ โดย คำสั่งในตลาดฟอเร็กซ์ มี 2 อย่างคือ
- คำสั่งซื้อ (Buy, Long Position) : คือการสั่งซื้อค่าเงินสกุลหนึ่งด้วยการ จ่ายเงินอีกสกุลหนึ่งโดยคาดว่าในอนาคตจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น(เงินแข็งค่า) ตัวอย่างเช่น ท่านซื้อเงินยูโรวันนี้ด้วยดอลล่า ที่ราคา 1 EURO : 1.1 USD ด้วยเงิน 1,100USD ท่านสามารถซื้อเงินยูโรได้ 1,000 EUR วันถัดมา ค่าเงินยูโรเกิดการแข็งค่าขึ้น ทำให้ท่านสามารถแลกเงินดอลล่ากับมาได้มากขึ้น ท่านจึงขายยูโรเพื่อแลกดอลล่ากลับมาที่ราคา 1 EURO : 1.13 USD ด้วยเงิน 1,000 EUR ท่านสามารถแลกเงินดอลล่ากับคืนมาได้ 1,130 USD ดังนั้น กำไรที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายยูโรดอลล่าจึงเท่ากับ 30 USD(1,130-1,100 USD)
- คำสั่งขาย (Sell, Short Position) : คือการสั่งซื้อค่าเงินสกุลหนึ่งใน ปัจจุบันเพื่อแลกกับเงินอีกสกุลแล้วซื้อคือกลับมาในอนาคตโดยหวังว่า ค่าเงินที่ขายไปตอนแรกจะมีมูลค่าน้อยลง (เงินอ่อนค่า) ส่วนมากคนมัก เข้าใจว่าเป็นการล็อคราคาขายในอนาคต ตัวอย่างเช่น
ท่านขายเงินยูโรวันนี้เพื่อแลกดอลล่า ที่ราคา 1 EURO : 1.13 USD ด้วยเงิน 1,000 EURO ท่านสามารถแลกเงินดอลล่าได้ 1,130 USD วันถัดมา ค่าเงินยูโรเกิดการอ่อนค่าลง ทำให้ท่านสามารถใช้เงินดอลล่าแลกเงินยูโรกลับมาได้มากขึ้น ท่านจึงซื้อเงินยูโรกลับมาด้วยดอลล่าที่ราคา 1 EURO : 1.10 USD ด้วยเงิน 1,130 USD จะได้ 1,027.27 EUR ดังนั้น กำไรที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายยูโรดอลล่าจึงเท่ากับ 27.27 EUR (1,027.27-1,000 EUR)
ดังนั้น ถ้าท่านคิดว่าราคาสกุลในอนาคตจะขึ้น ให้ท่านทำการซื้อ (buy)
ถ้าท่านคิดว่าราคาในอนาคตสกุลจะตกให้ท่านทำการขาย (sell)
ถ้าท่านคิดว่าราคาในอนาคตสกุลจะตกให้ท่านทำการขาย (sell)
9.อะไรคือปัจจัยที่มีผลกระทบต่อค่าเงิน ?
การเปลี่ยนแปลงของความต้องการซื้อและขายของค่าเงินนั้นๆเกิดจาก ปัจจัยทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ซึ่งปัจจัยต่างสรุปออกมาได้เป็น หลักๆดังนี้
- การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย: อัตราดอกเบี้ยมีผลต่อความต้องการในการกู้ยืมเงิน เช่น หากอัตราดอกเบี้ยสูงความต้องการของเงินจะน้อยลง
- ความมั่นคงทางการเมือง: สภาพบ้านเมืองเป็นปัจจัยสาคัญ เช่น หากการเมืองใน ประเทศนั้นๆไม่มั่นคงต่างชาติจะเสียความมั่นใจในการทา ธุรกิจ ด้วยส่งผลให้ความต้องการของเงินก็จะน้อยลงไป
- อัตราการจ้างงาน: อัตราการจ้างงานสะท้อนถึงเศรษฐกิจของประเทศและส่งผลต่อ ค่าเงินเช่นกัน หากอัตราการจ้างงานสูง จะทา ให้เศรษฐกิจ ของประเทศดีขึ้นและ ความต้องการค่าเงินก็จะสูงขึ้นตาม
- การเติบโตทางเศรษฐกิจ: ภาวะเศรษฐกิจมีผลต่อความเชื่อมั่นจากต่างประเทศ หาก เศรษฐกิจดี ต่างชาติก็ย่อมมีความมั่นใจและต้องการค้าขาย กับประเทศนั่นๆมากขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินดีแข็งค่าขึ้น
- การแทรกแซงของธนาคารกลาง: ธนาคารกลางเป็นผู้ควบคุมและออกนโยบายเพื่อควบคุม ปริมาณเงิน, อัตราดอกเบี้ยในประเทศ นอกจากนี้ยัง ควบคุมมูลค่าของค่าเงินได้อีกด้วย
10.Stop loss คืออะไร ?
Stop loss(สตอป ลอส) คือ คำสั่งปิดออเดอร์ที่จุดตำแหน่งราคาที่คุณตั้งไว้ หรืออีกนัยหนึ่งคือ เมื่อราคาเคลื่อนที่ไปถึงจุดที่คุณตั้ง Stop loss ไว้ ออเดอร์ของคุณจะถูกปิดอัตโนมัติ เพื่อป้องกันการสูญเสียเงินทุนหรือจำกัดการขาดทุน
11.Take profit คืออะไร ?
Take profit(เทค โพรฟิต) คือ คำสั่งปิดออเดอร์เมื่อได้มาซึ่งผลกำไรที่ตั้งไว้ หรืออีกนัยหนึ่งคือ เมื่อราคาเคลื่อนที่ไปถึงจุดที่คุณตั้ง Take profitไว้ ออเดอร์ของคุณจะถูกปิดอัตโนมัติ ซึ่งราคาที่คุณตั้งไว้ควรสูงราคาที่คุณเปิดไว้
12.Equity คืออะไร ?
Equity(อิควิตี้) คือ มูลค่าของเงินที่ทั้งหมดท่านลงทุนรวมกับผลกำไรหรือขาดทุนกับโพซิชั่นทั้งหมดที่เราทำการเปิดไว้ สามารถเรียกอีกอย่างได้ว่า Available Margin เงินส่วนนี้นั้นไม่นับเป็นมูลค่าเงินคงเหลือที่แท้จริงจนกว่าท่านจะปิดโพซิชั่นทั้งหมด Equity สามารถคำนวณได้ดังนี้
Equity = Balance(หรือยอดเงินคงเหลือ) + ผลกำไรจากโพซิชั่นที่เปิดอยู่ = ผลขาดทุนจากโพซิชั่นที่เปิดอยู่
Equity = Balance(หรือยอดเงินคงเหลือ) + ผลกำไรจากโพซิชั่นที่เปิดอยู่ = ผลขาดทุนจากโพซิชั่นที่เปิดอยู่
13.Margin คืออะไร ?
Margin(มาร์จิ้น) คือ เงินประกันในบัญชีที่ต้องใช้เพื่อเปิดหรือรักษาออเดอร์ มาร์จิ้นคงเหลือของท่านจะถูกแสดงไว้บนแพลตฟอร์มเทรด cTrader ซึ่งโปรแกรมเทรดจะไม่อนุญาตให้ท่านเปิดโพซิชั่นได้ถ้าหากท่านมีมาร์จิ้นคงเหลือไม่เพียงพอ
14.ฉันสามารถคำนวณ Margin ได้อย่างไร ?
การคำนวณหามาร์จิ้นที่ต้องใช้ในการเปิดโพซิชั่นหนึ่งโพซิชั่นในตลาดฟอเร็กซ์สามารถทำได้ ดังนี้
มาร์จิ้นที่ต้องใช้ = ( ราคาตลาด x จำนวน lots x ขนาดของสัญญา ) / เลเวอเรจ คำตอบที่ออกมาจะอยู่ในรูปของสกุลเงินหลักหรือสกุลเงินตัวแรกของคู่เงินที่ท่านทำการเทรด
มาร์จิ้นที่ต้องใช้ = ( ราคาตลาด x จำนวน lots x ขนาดของสัญญา ) / เลเวอเรจ คำตอบที่ออกมาจะอยู่ในรูปของสกุลเงินหลักหรือสกุลเงินตัวแรกของคู่เงินที่ท่านทำการเทรด
15.การเรียกวางหลักประกันเพิ่ม หรือ Margin Call คืออะไร ?
ถ้าหากราคาตลาดของคู่เงินเคลื่อนที่ในทางตรงกันข้ามกับโพซิชั่นที่ท่านเปิดไว้ เมื่อมาร์จิ้นในบัญชีมีมูลค่ารวมต่ำกว่าที่เรากำหนด จะมีการแจ้งเตือนว่าบัญชีของท่านมีวงเงินที่ไม่เพียงพอต่อการรักษาโพซิชั่นที่เปิดไว้ได้และต้องการให้ท่านฝากเงินเพิ่มหรือเรียกว่า “Margin Call” ถ้าหากจำนวนเงินในบัญชีมีไม่เพียงพอ โพซิชั่นที่เปิดอยู่ของลูกค้าจะถูกปิดลงทันที ระดับมาร์จิ้นจะถูกคำนวณโดยใช้สูตร
Margin Call=Equity/Margin×100%
สำหรับ cTrader ผลลัพธ์ควรออกมา => 50% เพื่อรักษาสถานะโพซิชั่น
Margin Call=Equity/Margin×100%
สำหรับ cTrader ผลลัพธ์ควรออกมา => 50% เพื่อรักษาสถานะโพซิชั่น
16.Stop out คืออะไร ?
Stop out คือ การที่ออเดอร์ของท่านถูกปิดอัตโนมัติ เมื่อเงินทุนของท่าน(margin level)ลดลงหรือต่ำกว่า 50% ระบบจะเริ่มทำการปิดคำสั่งซื้อขายทีละคำสั่งโดยเริ่มไล่ลำดับจากออเดอร์ที่ขาดทุนมากที่สุดไปจนกว่า margin level ของท่านจะมากกว่า 50%
*** ใครมีคำถาม สงสัย พูดคุยกันได้ที่ Comment ด้านล่างนะครับ ผมตอบเรื่อยๆ ครับ
สนใจสมัครเทรด ทำเงิน เลือกโบรกเกอร์ที่คนไทยสมัครเทรดได้เลยครับ
*** ใครมีคำถาม สงสัย พูดคุยกันได้ที่ Comment ด้านล่างนะครับ ผมตอบเรื่อยๆ ครับ
สนใจสมัครเทรด ทำเงิน เลือกโบรกเกอร์ที่คนไทยสมัครเทรดได้เลยครับ
( ฝากเงินผ่านตัวกลาง )
Get link E-Wallet WebMoney
"โชคดีสร้างและส่งต่อกันได้ เราทำให้คุณโชคดีได้"
แบ่งปันสุดหัวใจ ขอให้คุณโชคดี
ประวิทย์ นิ่มวงศ์
"โชคดีสร้างและส่งต่อกันได้ เราทำให้คุณโชคดีได้"
แบ่งปันสุดหัวใจ ขอให้คุณโชคดี
ประวิทย์ นิ่มวงศ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น