การเลือกโบรกเกอร์โฟเร็กซ์
ก่อนที่จะเทรด forex ได้ต้องเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ forex ก่อน โบรกเกอร์คืออะไร? คำอธิบายง่ายที่สุดคือ บริษัทหรือใครซักคนหนึ่งที่รับซื้อหรือขาย order ที่มาจากนักเทรด โบรกเกอร์ได้เงินจากค่าคอมมิชชั่น หรือค่าธรรมเนียมในการบริการ
forex โบรกเกอร์ต้องมีใบอนุญาติ
เมื่อเลือกโบรกเกอร์มาแห่งหนึ่งและจะพบว่าโบรกเกอร์นั้นเป็นสมาชิกขององค์กรอะไรซักอย่าง เพราะตลาด Forex เป็นตลาดที่ไม่มีตัวตนอยู่และด้วยความที่เป็นอย่างนี้ กฏหรือใบอนุญาตสำหรับโบรกเกอร์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะโดนหลอกก็เป็นได้
ในสหรัฐฯโบรกเกอร์จะต้องลงทะเบียนกับ Futures Commission Merchant (FCM) , Commodity Futures Trading Commission(CFTC) หรือเป็นสมาชิกของ NFA เป็นอย่างน้อย (CFTC และ NFA จะตรวจสอบบันทึกประวัติการเกิดการฉ้อฉลทุจริตคดโกงเงินในการเทรด)
เราสามารถตรวจสอบกฎของโบรกเกอร์จากสถานะของสมาชิกใน Commodity Futures Trading Commission (CFTC) และ (NFA) เพื่อตรวจดูประวัติของพวกเขาโดยการโทรไปหา NFA ที่เบอร์ 7(800) 621-3570 หรือตรวจสอบข้อมูลของโบรกเกอร์ผ่านทางเว็บไซต์ที่ www.nfa.futures.org/basicnet
ให้มองหาบริษัทที่มีประวัติการทำงานที่สะอาดและสภาวะการเงินมั่นคง อย่าสนใจกับโบรกเกอร์ที่ไม่มีองค์กรใดๆรับรอง
NFA จะคอยให้ความรู้กับนักลงทุนเกี่ยวกับการเทรด forex พวกเขามีนิตยสารที่ได้รับรางวัล Pulitzer ชื่อว่า "Trading in the Retail Off-Exchange Foreign Currency Market" เขาจะแนะนำให้อ่านมันก่อน
พวกเขายังได้พัฒนาตัวโปรแกรมการเรียนรู้เรื่อง forex ออนไลน์ Forex Online Learning Program ขึ้นมา เป็นโปรแกรมที่สามารถศึกษาได้ด้วยตัวเอง ถ้าอยากรู้ว่า forex เทรดอย่างไร มีความเสี่ยงจากการเทรดอย่างไร หรือสิ่งที่ควรทำความเข้าใจก่อนที่จะเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ ซึ่งทั้งสองนี้บริการให้ฟรี
ฝ่ายบริการลูกค้า
ตลาด Forex เป็นตลาดที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นจึงมีฝ่ายบริการลูกค้าที่ออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงเหมือนกัน
- สามารถติดต่อโบรกเกอร์เหล่านั้นผ่านโทรศัพท์ อีเมล์ แชท ได้ไหม?
- พนักงานรับโทรศัพท์เหล่านั้นจะตอบคำถามเราได้ไหม?
เรื่องคุณภาพของฝ่ายบริการลูกค้าขึ้นอยู่กับตัวโบรกเกอร์ ต้องเช็คให้แน่ใจว่าพวกเขาบริการดีหรือไม่ก่อนที่จะเปิดบัญชี
เกร็ด : เลือกโบรกเกอร์มาสองสามแห่ง แล้วติดต่อผ่านศูนย์บริการลูกค้าของพวกเขา ดูว่าพวกเขาตอบคำถามเร็วแค่ไหน เพราะบอกถึงความรับผิดชอบต่อความต้องการ ถ้าไม่ได้รับคำตอบที่น่าพอใจและช้า อาจเป็นโบรกเกอร์ที่ไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่และระวังโบรกเกอร์ประเภทนี้เอาไว้
( จำไว้ว่า บริการก่อนการขายย่อมดีกว่าบริการหลังการขาย ซึ่งไม่ถูกต้อง )
โปรแกรมเทรดออนไลน์
โบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะอนุญาติให้คุณเทรดผ่านอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว โปรแกรมที่ให้บริการเป็นระบบการส่งคำสั่งในการเทรด ดังนั้นโปรแกรมที่ใช้ในการส่งคำสั่งจึงมีความสำคัญ เหมือนกับการเทรดออพชั่นที่จะมีบริการบัญชีเทรดแบบเดโมในบางโบรกเกอร์
สิ่งที่ควรจะดูในหน้าจอโปรแกรมของโบรกเกอร์
- ความสามารถในการดูราคาหรืออัตราแลกเปลี่ยนแบบเรียลไทม์
- มีผลสรุปของยอดรวมในบัญชี และมีกำไรที่รับรู้ไปแล้ว และกำไรที่ยังไม่รับรู้ มีมาร์จิ้นที่เหลืออยู่ และมาร์จิ้นที่ล็อคไว้สำหรับในการถือ postion
โปรแกรมเทรดส่วนใหญ่หรือแม้แต่หน้าจอที่เทรดบนเว็บ โดยใช้ Java หรือว่าโปรแกรมที่ต้องติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งควรจะให้เหมาะกับตัวคุณ
- โปรแกรมที่เทรดบนเว็บเป็นโปรแกรมที่มี host หรือแม่ข่ายอยู่ที่เว็บไซต์ของโบรกเกอร์ เราไม่ต้องติดตั้ โปรแกรมใดๆในคอมพิวเตอร์ สามารถที่จะเข้าไปใช้โปรแกรมจากที่ไหนก็ได้คอมพิวเตอร์เครื่องไหนก็ได้ที่ต่ออินเตอร์เน็ต
- โปรแกรมที่ติดตั้งลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ต้องดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรม ก็ได้รับอนุญาตให้เทรดบนคอมพิวเตอร์ (ไม่ว่าจะลงโปรแกรมไว้กี่เครื่องก็ตาม)
โดยทั่วไปการดาวน์โหลดและการติดตั้งโปรแกรมสามารถทำได้ค่อนข้างรวดเร็ว แต่โปรแกรมส่วนใหญ่จะไม่มีโปรแกรมให้เลือกลงได้หลายระบบปฏิบัติการมากนัก ตัวอย่างเช่น โบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะมีโปรแกรมเทรดที่สามารถติดตั้งได้บน Microsoft Window อย่างเดียวเท่านั้น ถ้าคุณใช้ Mac คุณก็ไม่สามารถติดตั้งโปรแกรมเหล่านั้นได้ และคุณต้องใช้โปรแกรมที่ติดตั้งอยู่ในเว็บของโบรกเกอร์อย่างเดียวเท่านั้น โปรแกรมเหล่านี้จะเปิดผ่านโปรแกรมเล่นอินเตอร์เน็ต อย่าง IE , Firefox อีกที
โปรแกรมที่ใช้ซอร์ฟแวร์ Java เป็นที่นิยมในหมู่โบรกเกอร์ที่คิดว่าปลอดภัยและน่าเชื่อถือมากที่สุด เพราะยากที่จะโดนโจมตีจากไวรัสหรือแฮ็คเกอร์ในระหว่างที่ทำการส่งถ่ายข้อมูล เช่นการดาวน์โหลดโปรแกรมหรือการติดตั้งโปรแกรม
คุณต้องลองใช้โปรแกรมของโบรกเกอร์ด้วยบัญชีเดโม ก่อนที่จะลงเงินในบัญชีจริง!
ถ้าเป็นไปได้ควรใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง
ตลาด Forex เป็นตลาดที่มีการเคลื่อนไหวของราคารวดเร็ว ดังนั้นควรใช้อินเตอร์เน็ตที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับตลาด จึงควรมีอินเตอร์ความเร็วสูง แต่ถ้าไม่มีก็อาจจะทำให้พบกับปัญหาจุกจิกในการเทรด ระบบอินเตอร์เน็ตแบบเดิมๆไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับตลาด Forex ถ้าอยากเทรดออนไลน์ ควรใช้คอมพิวเตอร์ที่เร็วและมีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง แต่มันก็ไม่สำคัญมากหรอก!
ทุกโบรกเกอร์จะให้คุณส่ง order แบบเรียลไทม์อยู่แล้ว ทำให้คุณส่งคำสั่งซื้อขายได้ทันที สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่โปรแกรมเทรดพื้นฐานควรจะมี แต่ก็ยังมีการอัพเกรดโปรแกรมเทรด เพื่อใช้ในการอำนวยความสะดวก โดยอาจจะต้องเสียค่าธรรมเนียมเป็นรายเดือน
โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ก็จะมีกราฟหรือชาร์ททางเทคนิคไว้บริการในโปรแกรมเทรดอยู่แล้ว จะแตกต่างกันไปตามแต่ละโบรกเกอร์ เราควรเข้าใจจุดนี้ไว้ด้วย
Mini/Micro Accounts
โบรกเกอร์จะมีบัญชีเล็กๆให้เราเรียกว่า mini account และยังมีเล็กยิ่งกว่านั้นอีกคือบัญชี Micro Account ซึ่งแค่เงินไม่กี่ร้อยเหรียญก็สามารถเล่นได้ และดีสำหรับเทรดเดอร์ (trader) เพราะว่าเราควรจะใช้บัญชีประเภทนี้ในการหาประสบการณ์การเทรด
นโยบายหรือเงื่อนไขของโบรกเกอร์
ก่อนที่จะเลือกโบรกเกอร์ออนไลน์
ควรหาข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขของโบรกเกอร์ให้รอบคอบเสียก่อน เช่น:
- คู่เงินที่สามารถเทรดได้ ควรจะดูว่าโบรกเกอร์มีคู่เงินหลักๆอย่างน้อยเจ็ดค่าเงินให้เล่นรึเปล่า (AUD, CAD, CHF, EUR, GBP, JPY, and USD)
- Transaction Costs คือค่าใช้จ่ายในการส่ง order ซึ่งจะถูกคิดเป็น pip ยิ่งค่า spread ต่ำเท่าไหร่ในการเทรดต่อครั้ง หมายความว่าเรามีโอกาสในการทำกำไรสูงขึ้นเท่านั้น ถ้าเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์ที่ spread สูงๆ ก็จะเห็นความแตกต่างชัดเจน เช่น Bid กับ Ask หรือ Spread ของ EUR/USD ทั่วไปแล้วควรจะเป็น 3 pip แต่คุณอาจจะหาโบรกเกอร์ที่มี spread แค่ 2 หรือน้อยกว่านั้นได้
- Margin ที่ต้องใช้ สำหรับมาร์จิ้นที่ต้องใช้ต่ำมากๆ (หมายถึงต้องใช้ leverage สูง) หมายถึงโอกาสในการทำกำไร และโอกาสขาดทุนสูง เช่นเดียวกัน เปอร์เซ็นต์มาร์จิ้นส่วนมากจะอยู่ที่ .25% ถ้าหาโบรคที่มีมาร์จิ้นถูกๆยิ่งดีเมื่อเทรดได้กำไร แต่ถ้าขาดทุนก็เป็นดาบสองคมเหมือนกันต้องทำความเข้าใจกับการสวิงของค่าเงินด้วยและให้ระวังการใช้มาร์จิ้น
- ขนาดของการเทรดอย่างน้อยขนาดของการเทรดที่ 1 ลอท อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละโบรกเกอร์ บางโบรกเกอร์อาจจะเท่ากับ 1,000, 10,000 หรือ 100,000 ดอลล่าร์ต่อ 1 ลอท
ถ้า 1 ลอทมีมูลค่า 100,000 เหรียญเรียกว่า standard
ถ้า 1 ลอทมี มูลค่า 10,000 เรียกว่า Mini
ถ้า 1 ลอท มีมูลค่า 1,000 เรียกว่า micro
บางโบรกเกอร์อาจจะมีขนาดในการส่ง order ที่เล็กกว่านี้ได้อีกเรียกว่า odd lot สามารถกำหนดขนาดการส่ง order เองได้
- Rollover / swap Rollover ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยของแต่ละประเทศที่ใช้ค่าเงินนั้นๆอยู่ เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยอีกค่าเงินที่อยู่ในคู่ของค่าเงิน อัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันมากเท่าไหร่จะทำให้เราต้องจ่ายหรือรับค่า Rollover มากขึ้นเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ถ้าเราเทรด GBP/USD ถ้าเงินปอนด์มีอัตราดอกเบี้ยที่สูงหรือแตกต่างมากกว่าอัตราดอกเบี้ยของเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ดังนั้นการคิดค่า Rollover ของการถือเงินปอนด์จะแพง ในทางตรงกันข้าม ถ้าเงินสวิสฟรังค์มีอัตราดอกเบี้ยส่วนต่างน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับเงินดอลล่าร์สหรัฐ ดังนั้นการถือค่าเงิน USD/CHF ข้ามคืนก็จะมีค่าใช้จ่ายน้อยเช่นเดียวกัน
- อัตราดอกเบี้ยในบัญชีแบบ Margin Account การจ่ายดอกเบี้ยของโบรกเกอร์ส่วนมากขึ้นอยู่กับขนาดมาร์จิ้นของลูกค้าซึ่งขึ้นๆลงๆตามอัตราดอกเบี้ยที่ประกาศออกมา ถ้าคุณคิดจะหยุดเทรดไปซักพักแต่ดอกเบี้ยในบัญชีมาร์จิ้นของคุณยังคงถูกคิดต่อไป จำไว้ว่าโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้ปล่อยดอกเบี้ยพอกมากขึ้น นอกจากคุณจะใช้มาร์จิ้นแค่ 2 เปอร์เซ็นต์คือ leverage 1: 50
- Trading Hours แทบทุกโบรกเกอร์จะใช้เวลาในการเริ่มเปิดตลาดเป็นเวลาเดียวกันกับที่ตลาด Forex ทั่วโลกเปิดตลาดนั่นคือ 4:00 เช้าวันจันทร์ของไทยจนถึงเวลา ตี 4 วันเสาร์ของไทย
- เงื่อนไขอื่นๆให้ตรวจสอบเรื่องการเปิดบัญชี "fine print" เกี่ยวกับเงื่อนไขของโบรกเกอร์ เพราะอาจจะแตกต่างกันเล็กน้อยกับโบรคอื่นๆ เพราะพวกเขาอาจจะมีเงื่อนไขที่ตั้งขึ้นไว้เอาเปรียบนักเทรดมือใหม่ การหาโบรกเกอร์ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญมันไม่ได้ง่ายและต้องใช้เวลา อย่ารีบเลือกโบรกเกอร์ที่คิดว่าดูดี มองหาความได้เปรียบที่อาจจะมีในโบรกเกอร์อื่นๆ ด้วยการใช้บัญชี Demo ของพวกโบรกเกอร์หลายๆแหล่ง
สรุป
สิ่งที่ต้องตรวจสอบใน online Forex broker/dealer:
1. ค่า Spreads ต่ำ
ในการเทรด forex 'spread' คือจุดที่แตกต่างระหว่างราคา Buy กับ Sell ที่มีอยู่ในแต่ละค่าเงิน ถ้ายิ่ง Spread ต่ำๆยิ่งทำให้ได้เปรียบ
2. เงินฝากแรกเข้าขั้นต่ำไม่มากนัก
สำหรับคนใหม่ในตลาด Forex และไม่มีเงินเป็นล้านๆเหรียญที่จะมาเสี่ยงในการเทรด การเปิดบัญชี micro ด้วยเงินเริ่มต้นซัก 250 เหรียญ(เราแนะนำอย่างน้อย 1,000 เหรียญ) ซึ่งกำลังพอเหมาะสำหรับมือใหม่
3. order ของคุณโดน Instant automatic execution
นี่เป็นเรื่องสำคัญมากเมื่อคุณเลือก forex โบรกเกอร์ อย่าเลือกโบรกเกอร์ที่มี Re-Quote เมื่อจะซื้อที่ราคานั้นหรือโบรกเกอร์ที่มีการใช้ Slippage เป็นสิ่งสำคัญมาก เมื่อคุณเทรดแล้วหวังผลกำไรส่วนต่างไม่กี่จุดคุณต้องใช้สิ่งที่เราเรียกว่า WYSIWYG (อ่านว่า วิซซี่วิก) โบรกเกอร์ หมายถึงเมื่อคุณอยากได้ราคานั้นคุณก็ต้องได้ ..WYSIWYG = What You See Is What You Get!
4. มี charting and technical analysis ให้ฟรี
เลือกโบรกเกอร์ที่ให้มีชาร์ทหรือกราฟทางเทคนิคให้คุณ สำหรับนักเทรดที่แอคทีฟหน่อย (เทรดบ่อย) ให้หาโบรกเกอร์ที่มีกราฟ หรือข้อมูลการวิเคราะห์ทางเทคนิคให้ ที่จะสามารถใช้วิเคราะห์ด้วยตัวของคุณเองในกราฟ
5. Leverage Leverage
สามารถทำให้เรารวยและจนได้ในเวลาเดียวกันซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอย่างหลังมากกว่า(จน) ในฐานะนักเทรดที่มีประสบการณ์คุณไม่ต้องใช้ leverage เยอะมากอย่างที่คิด จะให้ดีใช้ราวๆ 1: 100 สำหรับบัญชีสแตนดาร์ดและ 200:1 สำหรับบัญชี mini
โบรกเกอร์ forex ที่คนไทยใช้กันก็มีหลายเจ้าครับ เช่น
1. XM
โบรกเกอร์ XM
2. EXNESS
โบรกเกอร์ EXNESS
3. FBS
โบรกเกอร์ FBS
เครดิต @jubtadoo
*** ใครมีคำถาม สงสัย พูดคุยกันได้ที่ Comment ด้านล่างนะครับ ผมตอบเรื่อยๆ ครับ
สนใจสมัครเทรด ทำเงิน เลือกโบรกเกอร์ที่คนไทยสมัครเทรดได้เลยครับ
( ฝากเงินผ่านตัวกลาง )
Get link E-Wallet WebMoney
"โชคดีสร้างและส่งต่อกันได้ เราทำให้คุณโชคดีได้"
แบ่งปันสุดหัวใจ ขอให้คุณโชคดี
ประวิทย์ นิ่มวงศ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น